เรื่อง : การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดหาด้วยแบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทาน กรณีศึกษาโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล

ผู้แต่ง :  นายธนาดล เนือยทอง

เอกสาร : การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดหาด้วยแบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทาน

           

1.     ความเป็นมา/หลักการและเหตุผล

-          เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้พลาสติกเป็นปริมาณสูงมาก  ส่งผลให้ขยะพลาสติกเพิ่มจํานวนมาก ขึ้นนอกจากนี้พลาสติกยังถูกพัฒนาคุณสมบัติให้แข็งแรงทนทาน ทําให้ยากแก่การจัดการและการนําขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เป็นทางเลือกที่ทุกคนให้ความสนใจทางหนึ่ง เพราะนอกจากเป็นการลดปัญหาจากขยะพลาสติกแล้ว ยังเป็นการช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกทางหนึ่งด้วย

2.     วัตถุประสงค์

-          เพื่อลดของเสียในการบวนการผลิตด้วยการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อ

-          เพื่อปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดหาด้วยแบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทาน

-          เพื่อลดรอบเวลากระบวนการจัดซื้อโดยการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อโดยใช้แบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทาน

3.     ขอบเขตของการศึกษา

-          เพื่อลดรอบเวลากระบวนการจัดซื้อโดยการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อโดยใช้แบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทาน

-          ในส่วนของการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดหาจะใช้การจําลองสถานการณ์ด้วย โปรแกรม iGrafx 2006

4.     ทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้อง

-          การจัดซื้อจัดหา (Procurement) (สาขาวิชาวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 2543)

-          การจัดการลอจิสติกส์และโซ่อุปทาน (Logistics and Supply Chain Management) (วิทยา 2546)

-          แบบจําลองอ้างอิงการดําเนินงานโซ่อุปทาน (Supply Chain Operations Reference Model: SCOR-model version 5.0) (Supply Chain Council, 2005)

5.     วิธีการ/ขั้นตอนการวิจัย

-          ศึกษาข้อมูลทั่วไปของโรงงาน ศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงงาน ศึกษากระบวนการจัดซื้อเดิมของโรงงาน ศึกษาแนวทางในการแก้ปัญหา จําลองสถานการณ์เพื่อศึกษาผลการปรับปรุง และสรุปผลการวิจัย

6.     ผลการวิจัย

-          ผลจากการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดหาในโรงงานกรณีศึกษา  คือมีวัตถุดิบที่ไม่ได้ คุณภาพผ่านเข้าไปในกระบวนการผลิต 6.5 เปอร์เซ็นต์ของวัตถุดิบทั้งหมดโดยอ้างอิงจากมาตรฐานทางการทหาร 414  ของเสียในกระบวนการผลิตลดลงเหลือ 6.62 เปอร์เซ็นต์  รอบเวลากระบวนการจัดซื้อลดลง 40.98 เปอร์เซ็นต์ เวลาการทํางานลดลง 71.42 เปอร์เซ็นต์  เวลารอคอยลดลง 21.77 เปอร์เซ็นต์  และต้นทุนในการจ้างพนักงานลดลง 14.44 เปอร์เซ็นต์

7.     ข้อจำกัดของงานวิจัย/ข้อเสนอแนะ

-          การนําโปรแกรมจำลองสถานการณ์เข้ามาใช้ในงานวิจัยครั้งต่อไป ควรจะมีการใช้ประโยชน์จากโปรแกรมห้มากขึ้น  หรือหาวิธีการปรับปรุงจําลองสถานการณ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเปรียบเทียบหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ต่อการนําไปใช้

-          การใช้แบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทานในงานวิจัยครั้งนี้เป็นการใช้ในส่วนของการจัดซื้อเท่านั้น ควรจะมีการขยายไปใช้ในส่วนของการผลิตและการจัดส่งเพื่อให้ผลการปรับปรุงในองค์กรเพิ่มขึ้น

อ้างอิง

ธนาดล  เนือยทอง, การปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดหาด้วยแบบจําลองอ้างอิงกระบวนการโซ่อุปทาน กรณีศึกษาโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล, กรุงเทพมหานคร: สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ , 2551.  

เรื่อง : ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ ของบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ในเขตกรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง :  จิตติยุทธ์ กาฬสงค์

เอกสาร : ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ ของบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ในเขตกรุงเทพมหานคร

1.     ความเป็นมา/หลักการและเหตุผล

-          การบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างยิ่ง ต่อการวางแผนธุรกิจในองค์กรต่างๆ รวมไปถึงบทบาทของภาครัฐบาลที่เพิ่มระดับความสําคัญกับ นโยบายด้านโลจิสติกส์ในประเทศมากขึ้น และจากการที่ลูกค้าได้คํานึงถึงสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ แต่ต้องการซื้อในราคาที่ต่ํา ทําให้องค์กรธุรกิจให้ความสนใจใน การพัฒนาการดําเนินงานให้ได้ต้นทุนที่ต่ําที่สุด เพื่อให้ตอบสนองความต้องของผู้บริโภคและการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2.     วัตถุประสงค์

-          เพื่อศึกษาปัจจัยความสําเร็จ ของบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ในเขต กรุงเทพมหานคร

-          เพื่อศึกษาผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ ของบริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ในเขตกรุงเทพมหานคร

-          เพื่อศึกษาปัจจัยความสําเร็จที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ของบริษัท ซี.พี. เซเว่น อีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ในเขตกรุงเทพมหานคร

3.     ขอบเขตของการศึกษา

-          ด้านเนื้อหาทําการศึกษาความคิดเห็นที่มีต่อปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนโลจิสติกส์ของ บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ในเขตกรุงเทพมหานคร ในทางด้านลักษณะทั่วไปของ องค์กร ด้านปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์

-          ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้จัดการ   ร้านค้าของ บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จํากัด (มหาชน) ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีร้านค้า ทั้งหมด 1,814 ร้านค้า (สมาคมผู้ค้าปลีกไทย. 2549 : 16) ดังนั้นจะมีผู้จัดการร้านทั้งหมด 1,814 คน เพื่อให้ทราบขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการคํานวณของทาโร ยามาเน (Yamane. 1967 : 919) ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง จํานวน 400 คน และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง เป็นแบบการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling)

4.     ทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้อง

-          การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics) และ ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)

-          จิตร์ ศิรธรานนท์ (2548 : 38) การที่ต้นทุนด้านการจัดการโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทาน (Logistics)

5.     วิธีการ/ขั้นตอนการวิจัย

-          ผู้วิจัยได้กำหนดที่จะทำการศึกษาวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้เครื่องมือในการเก็บข้อมูลคือแบบสอบถาม (Questionnaire)

-          ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง เป็นแบบการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling)

6.     ผลการวิจัย

-          ปัจจัยความสําเร็จโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทั้ง 9 ด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ปัจจัยด้านการเงิน รองลงมา คือ ปัจจัยด้านการบริหารจัดการ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ําสุด คือ ปัจจัยด้านการเมืองและกฎหมาย

7.     ข้อจำกัดของงานวิจัย/ข้อเสนอแนะ

-          ควรพิจารณาในการก่อสร้างร้านค้าที่มีขนาดของร้านค้าเหมาะสม ทำเลที่ตั้งไม่ควรจะห่างจากศูนย์กระจายสินค้ามากเกินไปและควรจ้างพนักงานให้พอดีกับกิจกรรมการทำงานภายในร้าน เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ โดยรวม

อ้างอิง

จิตติยุทธ์ กาฬสงค์, ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ ของบริษัท ซีพี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด [มหาชน] ในเขตกรุงเทพมหานคร, กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, 2551.  * link for original document *

เรื่อง : การศึกษาศักยภาพโซ่อปุทานของแกะ

         Potential Study of Sheep Supply Chain

ผู้แต่ง :  จิรรัตน์ ธีระวราพฤกษ์ และ ปาริชาต ชื่นวัฒนกุล

เอกสาร : วารสารบริหารธรุกิจเทคโนโลยีมหานคร ปีที่14 ฉบับที่1 (มกราคม – มิถุนายน 2560)

1.     ความเป็นมา/หลักการและเหตุผล

-          ตลาดอาหารฮาลาลเป็นตลาดที่ใหญ่ และเป็นตลาดที่ผู้บริโภคเป็นผู้มีกำลังซื้อสูง เนื้อแกะจัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงอย่างหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบัน ภาครัฐได้มีการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงแกะเพื่อรองรับการทำอาหารฮาลาล

2.     วัตถุประสงค์

-          วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ อุปสรรค ของกจิกรรมหลักของผู้เล่นแต่ละรายในโซ่อุปทาน และเสนอแนวทางการพัฒนาโซ่อุปทานของแกะ

3.     ขอบเขตของการศึกษา

-          ฟาร์มแกะขนาดกลาง (ขนาดของฟาร์มประมาณ 50 ตัว) ซึ่งมักจะเลี้ยงในส่วนอื่นๆของประเทศไทย เช่น จังหวัดสระบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดระนอง จังหวัดพิษณุโลก และกรุงเทพมหานคร

4.     ทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้อง

-           Ganeshan and Harrison (1995) แห่งมหาวิทยาลัย Penn State ได้ให้ความหมายของโซ่อุปทานในบทความชื่อ An introduction to supply chain management ว่าโซ่อุปทาน (Supply chain) คือเครือข่ายของสิ่งอำนวยความสะดวกและทางเลือกของช่องทางการกระจายสินค้าหรือบริการที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัดหาวัตถุดิบ การแปรรูปวัตถุดิบเหล่านี้ไปเป็นชิ้นส่วนระหว่างการผลิตและผลิตภณัฑ์สำเร็จรูป ตลอดจนการกระจายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเหล่านั้นไปสู่ลูกค้า

5.     วิธีการ/ขั้นตอนการวิจัย

-          สำรวจและสัมภาษณ์ผู้เล่นในโซ่อุปทานของแกะ

6.     ผลการวิจัย

-          แนวทางการพัฒนาโซ่อุปทานของแกะนั้นประกอบด้วย 1.การให้ความรู้กับผู้เล่นในโซ่อุปทาน เพื่อดำเนินการ ตามกิจกรรมหลักต่างๆ รวมถึงการจัดทำฐานข้อมูล เพื่อให้การจัดการความรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  2.ภาครัฐควรให้การสนับสนุนเกษตรกรให้เลี้ยงแกะอย่างมีประสิทธิภาพ  3.ในการสร้างความเข้มแข็งของโซ่อุปทาน จึงควรมีการส่งเสริมให้มีความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เล่นในโซ่อุปทาน  4.กระบวนการในการนำเข้าพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ควรที่จะไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน เพื่อเพิ่มจำนวนพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ให้เพียงพอ  5.ควรมีการสร้างความน่าเชื่อถือเรื่องการผลิตอาหารฮาลาลในประเทศไทย

7.     ข้อจำกัดของงานวิจัย/ข้อเสนอแนะ

-          ผู้เล่นในโซ่อุปทาน ซึ่งประกอบด้วยฟาร์มเลี้ยงแกะ โรงเชือดและชำแหละ ภัตตาคาร และผู้บริโภค โดยผู้เล่นทั้งหลายเหล่านั้นขาดความร่วมมือและไม่มีความสัมพันธ์อันดี ทำให้การไหลของข้อมูลในโซ่อุปทานนั้นไม่ต่อเนื่องและไม่ครบถ้วน ส่งผลให้ไม่สามารถพยากรณ์และวางแผนการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้

อ้งอิง

จิรรัตน์ ธีระวราพฤกษ์ และ ปาริชาต ชื่นวัฒนกุล, “การศึกษาศักยภาพโซ่อปุทานของแกะ,” วารสารบริหารธรุกิจเทคโนโลยีมหานคร, เล่มที่ 14, %11, p. 125, 2560.  * Link to original journal

The Application of Lean Thinking to Supply Chain Management: A Case Study of Rubber Glove Factory

เรื่อง : การประยุกต์แนวคิดแบบลีนกับการจัดการโซ่อุปทาน: กรณีศึกษาโรงงานถุงมือยาง

         The Application of Lean Thinking to Supply Chain Management: A Case Study of Rubber Glove Factory

ผู้แต่ง :  นางสาวสุคนธ์ทิพย์ หงส์พิริยะกุล
เอกสาร : การประยุกต์แนวคิดแบบลีนกับการจัดการโซ่อุปทาน: กรณีศึกษาโรงงานถุงมือยาง  

         

1.     ความเป็นมา/หลักการและเหตุผล

     ขจัดความสูญเปล่าจากกระบวนการ เพื่อลดเวลาการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ มุ่งตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าเป็นสำคัญ แต่เมื่อพิจารณาในอุตสาหกรรมถุงมือยางจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน รวมเรียกว่า โซ่อุปทาน การที่จะแก้ปัญหาหรือปรับปรุงประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้อง พิจารณาองค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันทั้งหมดขององค์กรธุรกิจ ปัญหาต่างๆและวิธีแก้ปัญหาจะต้องถูกนำมารวมเป็นภาพเดียวกัน ไม่สามารถแยกย่อยปัญหาโดยไม่พิจารณาภาพรวมของปัญหา เพื่อจะผลิตและกระจายสินค้าให้ถูกต้องตาม ปริมาณ สถานที่ และเวลา ด้วยมีเป้าหมายที่จะสร้างความพึงพอใจต่อความต้องการของลูกค้าด้วย ต้นทุนที่ต่ำที่สุด

2.     วัตถุประสงค์

-          เพื่อดำเนินการค้นหาความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น ตลอดทั้งโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมถุงมือยางโดยประยุกต์ใช้แนวคิดแบบลีน และเพื่อเสนอแนวทางการลดต้นทุนที่เกิดจากการกำจัดความสูญเปล่าให้กับอุตสาหกรรมถุงมือยาง

3.     ขอบเขตของการศึกษา

-          การศึกษาและการเก็บข้อมูล จะเก็บเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมถุงมือยางที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทกรณีศึกษา เท่านั้น

4.     ทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้อง

-          แนวคิดแบบลีน (Lean thinking) และแผนผังสายธารคุณค่า (Value Stream Mapping : VSM)

5.     วิธีการ/ขั้นตอนการวิจัย

-          ใช้หลักการทางด้านการจัดการโซ่อุปทานแบบลีนมาประยุกต์ใช้กับโซ่อุปทานอุตสาหกรรมถุงมือยางของโรงงานกรณีศึกษา เพื่อศึกษาและวิเคราะห์การดำเนินงานของโซ่อุปทานพร้อมทั้งจำแนกกิจกรรมที่เกิดในโซ่อุปทานตามหลักการวิเคราะห์แผนผังสายธารคุณค่า (VSM) เพื่อลดหรือกำจัดความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นในโซ่อุปทาน

6.     ผลการวิจัย

-          จากการวิเคราะห์สายธารคุณค่ามาใช้ในการจำแนกกิจกรรม ตั้งแต่ขั้นตอนการกรีดยางไปจนถึงการขนส่งไปยังท่าเรือเพื่อการส่งออก เมื่อวิเคราะห์หาความสูญเปล่าในโซ่อุปทานพบว่าเกิดความสูญเปล่าขึ้นสองประเด็นหลักคือ ความสูญเปล่าที่เกิดจากการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง และความสูญเปล่าที่เกิดจากการขนส่ง ซึ่งสามารถน าเสนอแนวทางในการกาจัดความสูญเปล่าได้โดยการหา ปริมาณสินค้าคงคลังที่เหมาะสม

7.     ข้อจำกัดของงานวิจัย/ข้อเสนอแนะ

-          เนื่องจากงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาความสูญเปล่าและเสนอแนวทางในการลดต้นทุนที่เกิดจากความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นในโซ่อุปทานอุตสาหกรรมถุงมือยางกรณีศึกษา ซึ่งมีการระบุขอบเขตตามองค์ประกอบของโซ่อุปทานที่ศึกษา ซึ่งอาจแตกต่างกับโรงงานถุงมือยางอื่น การมีขอบเขตเขตการศึกษาที่แตกต่างกันอาจส่งผลให้ความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน

อ้างอิง
 สุคนธ์ทิพย์ หงส์พิริยะกุล, การประยุกต์แนวคิดแบบลีนกับการจัดการโซ่อุปทาน: กรณีศึกษาโรงงานถุงมือยาง, สงขลา: สาขาวิศวกรรมอตสาหการและระบบ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2557. http://kb.psu.ac.th/psukb/bitstream/2010/9941/1/392627.pdf

เรื่อง : การพัฒนาระบบบริหารสินค้าคงคลัง สำหรับธุรกิจห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาล

ผู้แต่ง :  นางสาวเธียรภัทร เลิศวัฒนวิมล

เอกสาร : โครงงานพิเศษนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

สาขาวิชาการจัดการด้านโลจิสติกส์ (สหสาขาวิชา) บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2554

1.     ความเป็นมา/หลักการและเหตุผล

-          การบริหารจัดการสินค้าคงคลังโดยพึ่งพาบุคลเพียงคนเดียว ทำหน้าที่ตั้งแต่การตรวจสอบสินค้าคงคลังคงเหลือ คำนวณหาปริมาณการสั่งซื้อ และดำเนินการสั่งซื้อเอง อีกทั้งยังพึ่งพาการสำรองสินค้าคงคลังจากส่วนกลางค่อนข้างมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการขาดแคลนสินค้าคงคลัง

2.     วัตถุประสงค์

-          เพื่อศึกษารูปแบบการพยากรณ์ที่เหมาะสม สำหรับสินค้าคงคลังประเภทน้ำยาตรวจวิเคราะห์และเวชภัณฑ์ ของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์กรณีศึกษา และเพื่อศึกษาเปรียบเทียบหานโยบายการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสม ระหว่างระบบปริมาณสั่งซื้อคงที่ ( Fixed-Order Quantity Model : Q-Model ) กับระบบรอบเวลาสั่งซื้อคงที่ ( Fixed-Time Period Model : P-Model )

3.     ขอบเขตของการศึกษา

-          ศึกษาการบริหารสินค้าคงคลัง ประเภทน้ำยาวิเคราะห์และเวชภัณฑ์ของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โดยอาศัยข้อมูลตั้งแต่เดือน มกราคม 2553 ถึง มีนาคม 2554 เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และเสนอนโยบายการบริหารสินค้าคงคลังเพื่อลดต้นทุนสินค้าคงคลัง และอาศัยข้อมูลตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนกัยายน ปี2554 เพื่อการประเมินตัวแบบของรูปแบบการจัดการสินค้าคงคลังที่เสนอแนะ

4.     ทฤษฎีและงานวิจยที่เกี่ยวข้อง

-          การพยากรณ์ คือ การคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และนําผลที่ได้จากการพยากรณ์มาให้ในการวางแผนและใช้ประโยชน์ต่อไป เพื่อให้มีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิต หรือมีสินค้าสําเร็จรูปเพียงพอต่อการขาย ภายใต้ต้นทุนการบริหารสินค้าคงคลังที่เหมาะสม

-          ความแม่นยําของการพยากรณ์สามารถประเมินได้จากค่าความผิดพลาดของการพยากรณ์ (Forecast Error) ซึ่งเป็นค่าความแตกต่างระหว่างค่าที่เกิดขึ้นจริงและค่าที่ได้จากการพยากรณ์

5.     วิธีการ/ขั้นตอนการวิจัย

-          ข้อมูลปริมาณการใช้วัตถุดิบคงคลังในอดีตของรายการวัตถุดิบคงคลัง 3 รายการ ที่ได้มาจากการจําแนกประเภทวัตถุดิบคงคลังตามวิธี ABC Analysis โดยศึกษาวัตถุดิบคงคลัง 3 รายการจากสินค้าคงคลังสามประเภทของหมวด ABC สําหรับวัตถุดิบคงคลังที่มีมูลค่าสูงสุดในแต่ละกลุ่ม ตามขั้นตอน ตั้งแต่เดือน มกราคม 2553 ถึง เดือน มกราคม 2554 เป็นรายเดือนมาศึกษาเพื่อเลือกตัวแบบพยากรณ์

6.     ผลการวิจัย

-          จากการศึกษาและพัฒนาเรื่องการจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีหลักการ น่าจะเป็นกุญแจสําคัญทําให้การบริหารจัดการสินค้าคงคลังภายในห้องปฏิบัติตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ กรณีศึกษาดังกล่าว มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งในมุมมองเรื่องต้นทุน และระดับการบริการ

7.     ข้อจำกัดของงานวิจัย/ข้อเสนอแนะ

-          การสรุปผลงานวิจัยเพื่อนําไปสู่การ กําหนดรูปแบบการพยากรณ์และนโยบายการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสม เพื่อนําไปประยุกต์ใช้ได้เหมาะสมสําหรับบริษัทกรณีศึกษาเท่านั้น

อ้างอิง

เธียรภัทร เลิศวัฒนวิมล, การพัฒนาระบบบริหารสินค้าคงคลัง สำหรับธุรกิจห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาล, กรุงเทพมหานคร: สาขาวิชาการจัดการด้านโลจิสติกส์ (สหสาขาวิชา) บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2554. http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~ppongsa/2900600/ExampleProposal.pdf